เฟนเน็คฟ็อกซ์ หรือจิ้งจอกตัวน้อยแห่งทะเลทรายซาฮาร่านั้น สำหรับวิธีการเลี้ยงนั้นคนที่ไม่เคยเลี้ยงเฟนเน็คฟ็อกซ์มาก่อน อาจจะคิดว่าขั้นตอนการเลี้ยงนั้นจะเหมือนการเลี้ยงสุนัขทั่วไปหรือป่าว เรามาดูกันว่าการเลี้ยงเฟนเน็คฟ็อกซ์นั้นมีวิธีการเลี้ยงอย่างไรบ้าง อุปกรณ์พื้นฐานนั้นได้แก่ กรงเลี้ยง กระบอกขวดน้ำ ถ้วยอาหาร และอาหารเม็ด หรืออาจจะเสริมด้วยเนื้อไก่ต้ม เฟนเน็คฟ็อกซ์เป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่ายแต่ต้องอยู่ในความดูแลเพราะเป็นสุนัขจิ้งจอกพันธุ์เล็ก มีกระดูกอ่อน ดั้งนั้นจึงเล่นขย้ำเหมือนสุนัขทั่วไปไม่ได้เพราะอาจจะทำให้เกิดกระดูกหักได้
ลักษณะพิเศษของหูจิ้งจอกทะเลทรายซาฮาร่า ถ้าเป็นเสียงสื่อสารของพวกเขาที่ใช้สื่อสารกันเอง สามารถได้ยินเกือบ 4 – 5 กิโลเมตร เขาจะมีเสียงความถี่ของเขาซึ่งบางทีคนเราไม่ได้ยิน แต่ถ้าเทียบกับเสียงแมลงเดินอยู่ห่างกันประมาณ 10-20 เมตรก็ได้ยินแล้ว เขาสามารถรู้ได้ว่าบริเวณนั้นมีแมลงอยู่กี่ตัว และจะไปหาอาหารได้ที่ไหน จุดเด่นของเฟนเน็คฟ็อกซ์อยู่ที่ความเล็กของขนาดตัวกับความพิเศษของหู เมื่อเติบโตเต็มที่ใบหูจะมีขนาดใหญ่ และสามารถใช้ใบหูระบายความร้อนตอนอยู่กลางทะเลทราย ฉะนั้นใบหูจะช่วยระบายความร้อนได้ดี และนอกจากนี้ยังช่วยในการจับเหยื่อ เพราะขนที่หูด้านในไวต่อการดักจับเสียง
เฟนเน็คฟ็อกซ์ จัดได้ว่าเป็นจิ้งจอกที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก โดยตัวเต็มวัยของเจ้าเฟนเน็คนั้น มีน้ำหนักเฉลี่ยเพียง 1.75 กิโลกรัมสำหรับตัวผู้ และ 1.25 กิโลกรัมสำหรับตัวเมีย ซึ่งจะเทียบน้ำหนักกันแล้ว ยังถือว่าเล็กกว่าสุนัขบ้านแทบทุกสายพันธุ์ที่ซื้อขายกันในท้องตลาด ที่เห็นจะมีใกล้เคียงก็น่าจะเป็นชิวาว่า ด้วยความที่เฟนเน็คเป็นนักล่าที่ตัวเล็ก การหาอาหารจึงจะล่าเพียงสัตว์ที่ขนาดไม่ใหญ่มากมาเป็นอาหาร เช่นพวกแมลง ไข่สัตว์ชนิดต่างๆ กระต่าย หนู นก และสัตว์เลื้อยคลานต่างๆ และนอกจากเนื้อสัตว์มันก็ยังกินผักผลไม้อีกด้วย เรียกได้ว่าพวกมันกินแทบจะทุกอย่างเท่าที่พวกมันจะหาได้ และแม้ว่ามันจะเป็นนักล่าที่น่ากลัวสำหรับสัตว์เล็กแล้ว พวกมันก็ตกเป็นผู้ถูกล่าสำหรับสัตว์บางจำพวกที่ตัวใหญ่กว่ามันเช่นกัน แต่การที่มันจะตกเป็นเหยื่อนั้นไม่ง่าย เนื่องจากใบหูที่มีขนาดใหญ่ของมัน มีความสามารถในการได้ยินอย่างดีเยี่ยม พวกมันสามารถได้ยินเสียงฝีเท้าของนักล่าที่ย่ำผืนทรายตั้งแต่ระยะไกล ทำให้มันสามารถไหวตัวและหลบหนีได้ก่อนที่นักล่าจะเห็นตัวมันเสียอีก